จากบทความที่แล้วเรื่อง วัฒนธรรมองค์กร นั้นได้เกริ่นไปเบื้องต้นแล้วว่า วัฒนธรรมองค์กร คือสิ่งที่หน่วยงานนั้นสั่งสมกันมาเราเป็นเพียงผู้เข้ามาอยู่ใหม่ต้อง ปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร ให้ได้กลมกลืนกับเขาหรือจะโบกมือลา ถ้ามันเกินจะรับไหวจริงๆ
ในที่นี่ไม่มีใครสามารถตอบได้ชัดเจนว่าจะต้องปรับตัวให้อยู่ได้ กับ โบกมือลาแล้วไปสู้ใหม่แล้วจะไม่เจอวัฒนธรรมเช่นนี้อีก ต้องเสี่ยงดวงเอาแหละครับ ถ้าลองพิจารณาดูแล้ว ลักษณะงานและลองปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร แล้วก็ไม่เกิดผลดี หรือหากมองอนาคตแล้วไม่สามารถจะอยู่ร่วมกับองค์กรนี้ได้ ก็ต้องพิจารณาและเลือกที่ๆ เหมาะกับเราที่สุด
ปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร ปรับตัวให้ได้ หรือจะปล่อยเลยไปทำเป็นทองไม่รู้ร้อน มึนๆ อยู่กันไป
จริงอยู่หากเราไปปรึกษาคนโน้นคนนี้ เขาก็จะให้คำแนะนำในมุม และพื้นฐานของข้อมูลที่เขามีอยู่ แต่เขาไม่ได้มาประสบพบเจอแบบเรา เขาก็ไม่รู้หรอกครับว่าเราต้องเจอกับอะไรบ้าง ฉะนั้นแล้ว ตัวเราเองนั่นแหละที่จะตอบตัวเองได้ดีที่สุดว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้
ปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร บางครั้งไม่ได้เป็นแค่ในระดับหน่วยงาน แต่วัฒนธรรมองค์กรหลายๆ อย่างก็มีมาตั้งแต่ระดับกรมเลยก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับผู้บริหาร ซึ่งถ้าผู้บริหารเบอร์หนึ่งของหน่วยงานเรา มักเอาแต่พวกพ้อง ดันลูกน้องของตนเองจนไม่สนใจผู้อื่น ความเหมาะสม และความถูกต้องตามหลักการแล้ว วัฒนธรรมการเอาคืนก็จะมีต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ในยุคนี้เป็นของใคร บริวารแขนาขาของผู้นำท่านนั้นก็จะได้ดิบได้ดี จนคนรอบข้างก็สังเกตุได้ว่ามันเกินไป และสร้างความไม่เป็นธรรมในการบริหารงานให้เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นแผลและรอยร้าวไปตลอดในวงงานราชการ
